เอเซ่ ที่มีข่าวจ่อย้ายซบสเปอร์ส ยิงฟรีคิกทะลุกำแพงผ่าน โรเบิร์ต ซานเชซ ตั้งแต่ต้นเกม แต่กรรมการเช็ก VAR แล้วยกเลิก ทำให้พาเลซชวดขึ้นนำ สร้างความไม่พอใจต่อทีมและแฟนบอลที่มองว่าเป็นการตีความกฎแบบ “เข้มเกินไป”

แม้ไร้สกอร์ แต่ทีมของ โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ แสดงให้เห็นถึงระเบียบวินัยและคุณภาพเกมรับ ทั้ง อดัม วอร์ตัน ที่คุมแดนกลางเนียนตา และสองฟูลแบ็ก ไทริก มิตเชลล์ กับ ดาเนียล มูนญอซ ที่จัดการปีกเชลซีอยู่หมัด โดยผลงานนี้ต่อยอดจากการคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ และคอมมิวนิตี้ชิลด์ก่อนเปิดฤดูกาล

ด้าน เชลซี ภายใต้การคุมทีมของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า เปิดตัวแบบฝืด ๆ หลังเพิ่งผ่านซัมเมอร์สุดยาวจากการคว้าแชมป์สโมสรโลก เหล่านักเตะยังดูอ่อนล้า เกมรุกไร้ความเฉียบคม โคล พาล์มเมอร์ และ เจา เปโดร แทบไม่มีพื้นที่ให้เล่น ส่วน เอสเตวาโอ ตัวสำรองดาวรุ่งลงมาสร้างความหวือหวาแต่ยังไม่เฉียบพอ

เชลซียังต้องรอเสริมแกร่งแนวรุก โดยมีข่าวกับ อเลฮานโดร การ์นาโช และ ซาบี ซิมงส์ ขณะที่ พาเลซยังต้องลุ้นอนาคตของ เอเซ่ และ เกฮี ที่มีโอกาสย้ายทีมก่อนตลาดปิด

ผลเสมอเกมนี้แม้ทำให้เชลซีสะดุดตั้งแต่เปิดหัว แต่ยังไม่ใช่เรื่องน่าตกใจ ขณะที่พาเลซพิสูจน์แล้วว่า พร้อมเป็นตัวแสบของบรรดาทีมลุ้นแชมป์แน่นอน